
__________________________________________________
SME สมัยนี้ คนหนึ่งคนต้องทำงานหลายอย่าง เรียกได้ว่าเป็นทุกอย่างให้เธอแล้ว
ฉะนั้น การเข้าไปเจาะลึก ลงรายละเอียดในทุก ๆ อย่างอาจจะไม่ได้ส่งผลดีเสมอไป
บางครั้ง ก็ต้องรู้จักหาเครื่องทุ่นแรง โดยเฉพาะด้านสินค้าคงคลัง
__________________________________________________
ผู้ประกอบการ SME มักจะใช้เวลาส่วนใหญ่ของเขาในการทำงานที่ละเอียด ยิบย่อย แทนที่จะมุ่งการทำงานที่เป็นภาพใหญ่ ซึ่งจะทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตช้ากว่าคู่แข่งได้
โดยหัวใจของธุรกิจคือสินค้าคงคลังว่าคุณขายอะไร แน่นอนว่าคุณคงไม่อยากทำงานที่ไม่มีการวางแผน หรือ เตรียมการด้านสินค้าคงคลังแน่ ๆ แต่ถึงอย่างนั้น SME ส่วนมากก็ยังเป็นแบบนั้นอยู่ บางทำใน excel บางรายทำในกระดาษโน้ต แล้วก็เอาแต่ถามว่าทำไมธุรกิจเติบโตช้ากว่าที่คิดไว้
Time to Change ! ถึงเวลาที่เราต้องกล้าเปลี่ยนแปลงแล้ว การจะทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ รวดเร็วนั้น SME จะเป็นต้องมีระบบในการบริหารจัดการสินค้าคงคลังของตัวเองให้เป็นที่เป็นทาง ซึ่งต้องเอาซอฟต์แวร์สินค้าคงคลังเข้ามาช่วย โดยซอฟต์แวร์สมัยนี้ก็มีให้เราเลือกใช้ได้หลากหลาย ทั้งแบบฟรี และ แบบเสียเงิน ขึ้นอยู่กับว่าเราต้องการใช้ฟังก์ชันไหน ก็สามารถเลือกได้ตามความต้องการ ซึ่งข้อดีของการใช้ซอฟต์แวร์สินค้าคงคลังนี้คือ
1. ข้อมูลถูกต้องมากขึ้น
อย่างแรกเลย ! ถ้าคุณยังใช้ spreadsheet excel หรือ สมุดโน้ตในการบริหารสินค้าคงคลังอยู่ ธุรกิจของคุณจะขยายตัวได้ยากมาก เพราะทั้งหมดนั้น เราต้องเป็นคนทำเองทั้งหมด เรียกง่าย ๆ ว่า Manual ซึ่งมีโอกาสสูงมากที่จะเกิด human error และ เกิดความผิดพลาดซ้ำ ๆ
ในธุรกิจขนาดเล็ก คุณไม่มีเวลาเพียงพอที่จะไปเจาะลึกในทุก ๆ รายละเอียดของ spreadsheet ข้างต้น เพราะคุณมีงานอย่างอื่นอีกมากมายที่จะต้องดูแล ( บางคนถึงขั้นทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว )
ตรงนี้แหละที่ซอฟต์แวร์สินค้าคงคลังจะเข้ามาช่วยคุณได้ เพียงคุณนำข้อมูลสินค้าคงคลังที่มีอยู่ป้อนเข้าไปในซอฟต์แวร์ มันก็จะการจัดการสินค้าคงคลังให้คุณได้แบบอัตโนมัติ
ซอฟต์แวร์สินค้าคงคลังจะทำรายงานที่มีความน่าเชื่อถือให้คุณสามารถนำไปวิเคราะห์และวางแผนการจัดซื้อ การผลิต และ การตลาดต่อไปได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น
2. ตรวจจับข้อผิดพลาดได้เร็วขึ้น
เหตุผลหลัก ๆ อีกข้อที่ทำให้ SME ไม่สามารถขยายธุรกิจได้ คือ การจัดการข้อมูลคำสั่งซื้อไม่ถูกต้อง ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้ spreadsheet แบบ Manual นั่นเอง
ซอฟต์แวร์สินค้าคงคลัง มักจะมาพร้อมกับความสามารถในการควบคุมคุณภาพ หรือ quality control เพื่อตรวจสอบคำสั่งซื้อก่อนที่จะจัดส่งออกไป โดยอ้างอิงจากใบ PO (Purchase Order) ของลูกค้า ง่าย ๆ ถ้าคุณกำลังจะจัดส่งสินค้า ระบบ QC จะสามารถตรวจจับความผิดพลาดก่อนทำการส่งสินค้าได้
เพราะการจัดการคำสั่งซื้อผิดพลาดส่งผลเสียหลายอย่างต่อธุรกิจ นอกจากจะสร้างความไม่พึงพอใจให้กับลูกค้าแล้ว ลูกค้าอาจจะไปรีวิวเรา หรือ เลิกซื้อสินค้าจากเรา
3. การบริการลูกค้าที่ดีขึ้น
ซอฟต์แวร์สินค้าคงคลังที่ดี จะมาพร้อมกับทีมงาน ที่พร้อมทำงานช่วยเหลือเราในใช้งานได้ พวกเขาสามารถตอบคำถามเกี่ยวกับปัญหาการใช้งาน หรือ ช่วยเซตระบบให้ ทำให้คุณสามารถไปทำงานในส่วนอื่น ๆ ได้มากขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น : คุณสามารถใช้เวลาในการคุยกับลูกค้า ที่ร้องเรียนเข้ามา ในขณะเดียวกับ ทีมงานเหล่านี้จะคอยตรวจสอบสินค้า และ หาคำตอบให้คุณอยู่เบื้องหลัง
4. เพิ่มความคล่องตัวในการจัดการคำสั่งซื้อ และ การทำ Fulfillment
พื้นฐานของซอฟต์แวร์สินค้าคงคลัง คือ การยกระดับธุรกิจของคุณ กระบวนการหยิบสินค้า การแพ็คสินค้า และ การจัดส่งสินค้า หรือที่เราเรียกกันว่า กระบวนการ Fulfillment เป็นกระบวนการสำคัญที่ต้องใช้ข้อมูลจากซอฟต์แวร์สินค้าคงคลัง ข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ จะทำให้กระบวนการ Fulfillment ทำงานง่ายขึ้น ส่งผลต่อเนื่องมาจนถึงการจีดส่งสินค้าให้ลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น
หยุดเสียเวลาไปกับการใช้กระดาษ picking list ที่อาจนำไปสู่การผิดพลาด มาใช้ digital pick list ที่แม่นยำ และ real time จะทำให้กระบวนการหยิบสินค้าเร็วขึ้น การแพ็คสินค้ามีความมั่นใจมากขึ้นด้วยระบบ QC ลดความผิดพลาดในการแพ็คสินค้าผิด และสามารถเชื่อมต่อกับผู้ให้บริการขนส่งที่เราต้องการได้อีกด้วย
ผู้ประกอบการ SME ยุคใหม่ ต้องปรับความเข้าใจว่าในสมัยนี้ การทำงานแบบ manual ไม่เวริคอีกต่อไปแล้ว
แต่การเอาเครื่องทุ่นแรงมาช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นระบบ เทคโนโลยี หรือ เครื่องมือต่าง ๆ ต่างหากที่จะช่วยให้การทำงานมีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และ สามารถแข่งขันได้
>> เพิ่มเงินอีกนิด เพื่อผลลัพธ์ระยะยาวที่คุ้มค่าต่อการลงทุน <<
เรียบเรียงโดย BLOG.SCGLogistics
อ้างอิงบทความจาก supplychain247.com
อ้างอิงรูปภาพจาก dspinteriors.co.uk, freepik.com, routeique.com, bladeroomus.com